เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

             บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรสายเลือดไทย ที่ยืนหยัดในอุตสาหกรรมผู้ให้บริการโลจิสติกส์บนรากฐานอันแข็งแกร่งมานาน และกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 33 ในปี 2566 ด้วยทีมงานผู้บริหารมืออาชีพพร้อมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตและก้าวข้ามผ่านความท้าทายในทุกสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง

          ในปี 2565 ที่ผ่านมา สถานการณ์ของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ หลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินทางกันมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวหลังจากที่ปิดประเทศกันมานาน

          ปี 2565 นี้ ทางบริษัทฯ มองว่า ยังเป็นช่วงเวลาดีๆ ของธุรกิจสายเดินเรือที่ให้บริการในระบบตู้คอนเทนเนอร์หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศหลายๆบริษัท รวมถึง LEO ด้วย จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น SCFI หรือ Shanghai Containerized Freight Index หรือ แหล่งข่าวที่เกี่ยวกับ Logistics มีข้อมูลตรงกันว่า ปี 2565 นี้ เป็นอีกปีแห่งความท้าทายของผู้ส่งออกและผู้นำเข้าทั่วโลก และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังคงมีอยู่ต่อไปและอาจจะมีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และจะทำให้ค่า Freight หรืออัตราค่าระวางเรือยังจะคงอยู่ในระดับที่สูงต่อไปอย่างน้อยถึงไตรมาส 3 หรืออาจจะเป็นทั้งปีของปี 2565 ทางบริษัทฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ พนักงานของเราต้องหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมองหา Solution ใหม่ๆ เพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าสำหรับเป็นทางเลือกในการขนส่งที่เหมาะสมและดีที่สุดให้กับลูกค้า มีการแบ่งปันข้อมูลร่วมกันภายในบริษัทฯ รวมทั้งมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มเติม จึงทำให้เราสามารถรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น พิสูจน์ได้จากจำนวนลูกค้ารายหลักของบริษัทฯ ในปี 2563 ยังคงใช้บริษัทฯ ต่อเนื่องในปี 2564 มากว่า 90% และผลคะแนนความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้าในปี 2564 ได้คะแนนสูงขึ้นถึง 92% นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้นำโปรแกรม Sales Force โปรแกรมบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) อันดับ 1 ของโลก มาช่วยในส่วนของการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า และช่วยในส่วนของการบริหารทีมงานขาย ทางบริษัทฯ สามารถนำข้อมูลและรายงานต่างๆ ในระบบไปวิเคราะห์และวางแผนการให้บริการลูกค้า รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆ ให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความประทับใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          และสำหรับปี 2566 นี้ นับเป็นปีที่ท้าทายของธุรกิจโลจิสติกส์อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เพราะผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการค้าทั่วโลกพลอยซบเซาตามไปด้วย

          LEO ในฐานะที่เป็น End-to-End Logistics Services Provider ที่ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งมานานกว่าสามทศวรรษ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และพัฒนาการให้บริการใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจอยู่เสมอ โดยแผนยุทธศาสตร์ในปี 2566 ของ LEO นี้ มีชื่อว่า 365 Degree Collaboration ซึ่งหมายถึง LEO จะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาการให้บริการและโครงการใหม่ๆ ในทุกมิติ ทั้งกลุ่ม Logistics ที่เป็น Freight , Non- Freight และ Non Logistics ด้วยความคิด 365 Degree Collaboration จะช่วยทำให้ LEO เป็น Growth Stock ที่มีการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยนำจุดแข็งของแต่ละพันธมิตรมาพัฒนาธุรกิจและสร้าง Synergy (การผสานพลัง) ร่วมกัน ด้วยความเชื่อมั่นว่าการสร้าง Synergy ร่วมกันจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ใช่แค่ 1 1 = 2 แต่จะเป็น 3 หรือ 4 หรือ 5 และช่วยให้ LEO สามารถขยายขอบเขตของธุรกิจและการบริการได้มากขึ้น รวมถึงมีฐานของลูกค้าใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น

          บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ และมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการขยายและเพิ่มรายได้ในส่วนที่ไม่ใช่การขนส่งสินค้าทางเรือหรือทางอากาศ (Non Freight) ที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบันของบริษัทฯ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเพิ่มรายได้จากการขนส่งสินค้าทางรางหรือทางรถไฟ และธุรกิจที่มีการสร้าง Recurring Income อย่างสม่ำเสมอ เช่น ธุรกิจ Warehouse & Logistics Center, Cold Chain Logistics Center หรือธุรกิจ Self Storage ที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ทำการตลาดสำหรับธุรกิจ Self Storage อย่างจริงจัง จนทำให้ธุรกิจ Self Storage เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากธุรกิจ Non-Freight ให้ทำรายได้กับบริษัทฯ เป็นสัดส่วนที่สูงขึ้นเพิ่มเติมจากการขนส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

         โดยบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า การขยายธุรกิจโดยการร่วมมือกับพันธมิตรนี้ จะทำให้รายได้ของ LEO มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญาตั้งแต่ตอนที่ LEO มี Road Show พบกับนักลงทุนก่อนบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ว่า เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ LEO เป็นหุ้น Blue Chip Stock ของธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน และสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ และทางบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ LEO สามารถย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ภายในปี 2567 เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของบริษัทฯ ที่จะเป็นหนึ่งในหุ้น Blue Chip Stock ของธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร

         ตลอดระยะเวลากว่า 32 ปี ที่ผ่านมา เรายึดมั่นและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยใช้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารความเสี่ยง การสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น ด้วยจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (Corporate Social Responsibility : CSR) เรามีกิจกรรมเพื่อสังคมและโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมมากมาย เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในสังคมและการศึกษาของเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลให้ดีขึ้น โดยในปี 2565 ทางบริษัทฯ ได้จัดทำโครงการโรงเรียนนี้เพื่อน้องปี 5 ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนวัดนาทะเล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีอาคารเรียนที่เก่าแก่ถึง 99 ปี บางห้องเรียนไม่สามารถใช้ทำการเรียนการสอนได้ ทางบริษัทฯ จึงได้จัดทำโครงการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนในส่วนของการบูรณะซ่อมแซมอาคารเรียนชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา ติดตั้งกระดานดำและเปลี่ยนผนังอาคารใหม่ รวมถึงการสร้างห้องสมุด มอบหนังสือ อุปกรณ์และสื่อสำหรับการเรียนการสอนที่ทันสมัยให้กับโรงเรียน ซึ่งทางบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพนักงานของบริษัทฯ จนทำให้โครงการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในหลักจริยธรรม สร้างประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายรวมไปถึงสังคมโดยรวม เพื่อนำ LEO ก้าวไปข้างหน้า เติบโตอย่างมั่นคง

         สุดท้ายนี้ ผมในนามบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นใน LEO มาโดยตลอด และขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานลีโอทุกคน ที่ช่วยกันนำพาบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรชั้นนำในธุรกิจโลจิสติกส์ ให้สมกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ว่า LEO จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรชั้นนำของไทย ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก โดยมีการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในใจของลูกค้า พนักงานและนักลงทุน ตลอดไป

ขอแสดงความนับถือ 
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร